โรคกระดูกทับเส้น หรือที่เรียกกันว่า "โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท" นั้นเป็นโรคที่มีอัตราการเกิดเป็นอันดับต้นๆ
ในหมู่โรคเกี่ยวกับหลังและคอ
โดยโรคนี้ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นจากลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้คน
โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน
หรือการใช้ร่างกายไม่ถูกต้อง จนทำให้เกิดโรคกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทในที่สุด
อาการของโรคกระดูกทับเส้นประสาทเป็นอย่างไร?
อาการกระดูกทับเส้นประสาทที่พบได้บ่อยนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่
อาการกระดูกทับเส้นประสาทที่พบได้บ่อยนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่
- กระดูกทับเส้นประสาทบริเวณหลังส่วนล่าง - เกิดจากการที่หมอนรองกระดูกปลิ้นหรือแตกจนทำให้ของเหลวภายในไปเบียดทับเส้นประสาทบริเวณหลังส่วนล่าง
(กระดูกสันหลังชิ้นที่ L3 L4 L5 S1) ทำให้ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนเอวไปถึงขา อาการของโรคกระดูกทับเส้นประสาทบริเวณหลังส่วนล่าง
- มีอาการปวดหลังบริเวณเอว เป็นๆ
หายๆ
- ปวดหลังมากเวลา ยืน ก้มเงย
หรือนั่งนานๆ
- ปวดหลังร้าวลงมาที่ขา น่อง
ตาตุ่ม หรือเท้า ร่วมกับมีอาการชาที่บริเวณขาหรือเท้าด้วย
- ระบบขับถ่ายผิดปกติ
หรือรุนแรงจนเป็นอัมพาตของขาทั้งสองได้
- กระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ - เกิดจากการที่หมอนรองกระดูกยื่นมากดทับเส้นประสาทบริเวณคอ
ส่งผลทำให้เกิดอาการปวดคอ ร่วมกับปวดแขนข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง อาการของโรคกระดูกทับเส้นประสาทส่วนคอ
- เกิดอาการชาบริเวณฝ่ามือโดยเริ่มจากปลายนิ้ว
- มีอาการปวดร้าวบริเวณแขนข้างใดข้างหนึ่ง
- ปวดคอ
ปวดเมื่อยบริเวณสะบักเรื้อรัง
- ไม่สามารถเคลื่อนไหวคอได้ปกติ
กระดูกทับเส้นประสาท
เกิดจากสาเหตุใด?
- การเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลังตามอายุและการใช้งานเป็นปกติ
- คนที่มีน้ำหนักตัวมากก็มีส่วนทำให้หมอนรองกระดูกรับน้ำหนักมาก
- มีพฤติกรรมหรือทำงานที่ต้องก้ม
หรือยกของหนักบ่อยๆ
- อาชีพที่ต้องนั่งทำงาน
หรือขับรถเป็นระยะเวลานาน
- อุบัติเหตุจากการหกล้ม
ผู้ป่วยกระดูกทับเส้นประสาทควรปฏิบัติตัวอย่างไร?
หากผู้ป่วยดูแลตนเองด้วยวิธีถูกต้องและระมัดระวังก็จะทำให้มีโอกาสหายขาดจากโรคกระดูกทับเส้นประสาทสูง โดยผู้ป่วยควรปฏิบัติตัวดังนี้
หากผู้ป่วยดูแลตนเองด้วยวิธีถูกต้องและระมัดระวังก็จะทำให้มีโอกาสหายขาดจากโรคกระดูกทับเส้นประสาทสูง โดยผู้ป่วยควรปฏิบัติตัวดังนี้
- เปลี่ยนท่านอนเป็นการนอนตะแคง
- เปลี่ยนมานอนที่นอนแข็งหรือที่นอนที่ยัดนุ่นแทน
และใช้หมอนที่มีขนาดเตี้ยลงกว่าเดิม
- ผู้ป่วยควรนั่งให้น้อยที่สุด
เช่นหากจะนั่งพักเฉยๆ ให้เปลี่ยนเป็นการนอน
หรือเวลาที่จะลุกนั่งให้นอนคว่ำแล้วคลานถอยลงจากเตียง
- หากจำเป็นต้องนั่ง
ควรนั่งหลังตรงพิงพนักโดยมีผ้าหรือหมอนหนุน
- อย่านั่งนานเกินไป
ควรลุกขึ้นยืนทุกๆ ชั่วโมง
- เวลายกของหนัก ไม่ควรก้ม
ควรใช้วิธีการย่อเข่าแทนการก้ม
- ไม่ควรบิดตัว
เพราะอาจทำให้หมอนรองกระดูกหลุดเพิ่มได้
- ควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
โรคแทรกซ้อน
หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอว ถ้าเคลื่อนรุนแรงมากขึ้นและกดทับเส้นประสาทเป็นเวลานาน อาจจะทำให้เกิดอาการชา และอ่อนแรงกล้ามเนื้อขาเป็นการถาวรได้ เช่นเดียวกับหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอ จะทำให้เกิดการชา และอ่อนแรงของกล้ามเนื้อบริเวณแขน หรือในกรณีที่กดทับรุนแรงมาก อาจทำให้เกิดอัมพฤตหรืออัมพาตได้
การป้องกันการเกิดโรคกระดูกทับเส้นประสาท
หมอนรองกระดูกสันหลังส่วนเอว ถ้าเคลื่อนรุนแรงมากขึ้นและกดทับเส้นประสาทเป็นเวลานาน อาจจะทำให้เกิดอาการชา และอ่อนแรงกล้ามเนื้อขาเป็นการถาวรได้ เช่นเดียวกับหมอนรองกระดูกสันหลังส่วนคอ จะทำให้เกิดการชา และอ่อนแรงของกล้ามเนื้อบริเวณแขน หรือในกรณีที่กดทับรุนแรงมาก อาจทำให้เกิดอัมพฤตหรืออัมพาตได้
การป้องกันการเกิดโรคกระดูกทับเส้นประสาท
- หลีกเลี่ยงการนั่ง ยืน เดิน
เป็นระยะเวลานานๆ หมั่นเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ
- ควรลดน้ำหนักให้สมดุลกับร่างกาย
- งดสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
- ควรออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อหลังและหน้าท้อง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น