การรักษามะเร็งปากมดลูกที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เป็น
ด้วยการตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าการฉีดวัคซีนจะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อ HPV แต่การฉีดวัคซีนไม่สามารถป้องกันเชื้อ HPV
ได้ทุกสายพันธุ์
และไม่สามารถปกป้องคุณได้หากคุณติดเชื้อไวรัสนี้มาก่อนการฉีดวัคซีน
แนวทางเวชปฏิบัติสำหรับแพทย์ได้แนะนำให้ตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าคุณจะเคยฉีดวัคซีนหรือไม่ก็ตามการตรวจ
HPV DNA คือวิธีเดียวที่คุณจะได้รู้ว่าคุณติดเชื้อไวรัสหรือไม่
การรักษามะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจคัดกรองเป็นวิธีที่ช่วยปกป้องคุณจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้ดีที่สุด
ซึ่งโดยทั่วไปจะมีการตรวจ 2 ประเภทที่แตกต่างกัน ได้แก่ แพปสเมียร์ (Pap
smear) และการตรวจ HPV DNA (HPV DNA Test)
แพปสเมียร์สามารถตรวจความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเซลล์ปากมดลูกเมื่อมะเร็งได้เริ่มเกิดขึ้นแล้ว
แต่การตรวจ HPV DNA จะสามารถตรวจหาการติดเชื้อ
HPV สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงก่อนที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงที่เซลล์ปากมดลูก
และนั่นหมายถึง ก่อนที่มะเร็งจะเกิดขึ้น
การตรวจหาเชื้อ HPV
ไม่เพียงแต่ทำให้คุณรู้ว่าคุณมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือไม่
แต่การตรวจยังทำให้คุณสบายใจได้หากรู้ว่าคุณไม่มีความเสี่ยงนั้นเลย
แพปสเมียร์ไม่สามารถปกป้องคุณจากมะเร็งปากมดลูกได้อย่างเต็มที่
ผลการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าผู้หญิง 1 ใน 3 คนที่ผลตรวจแพปสเมียร์ปกติ
กลายเป็นมะเร็งปากมดลูกในภายหลัง
และที่สำคัญ
ผู้หญิงทุกคนควรระลึกไว้เสมอว่าการตรวจทางสูตินรีเวชไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย
การกลัวและอายแพทย์อาจทำให้คุณอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก
โดยไม่รู้ตัว เพราะการตรวจช่วยปกป้องคุณจากโรคมะเร็งปากมดลูกได้ดีที่สุด
รู้ลึก ถึงสายพันธุ์
การตรวจ HPV บางประเภทแค่บอกให้คุณรู้ว่าคุณติดเชื้อ
HPV หรือไม่
และการตรวจบางประเภทก็บอกให้คุณรู้ว่าคุณติดเชื้อ HPV กลุ่มเสี่ยงสูง
ในขณะที่การตรวจบางประเภทสามารถบอกลึกลงไปได้ว่าคุณติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด นั่นคือเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น