วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

การใช้ social network ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว facebookและเปลี่ยน password lineเพื่อความปลอดภัยในชีวิต


การใช้ social network  ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็วอย่างทุกวันนี้ ถ้าจะเรียกว่าโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟน กลายเป็นปัจจัยที่ 5 หรือปัจจัยที่ 6 ของชีวิตก็คงจะไม่ผิดจากความจริงไปสักเท่าไหร่แล้วนะครับ ชีวิตของเราอยู่กับมันเกือบจะตลอดเวลา และยิ่งมันฉลาดมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็ยิ่งพึ่งพามันมากขึ้นเท่านั้น จริงมั้ยครับ?

แน่นอนว่าในขณะที่มันมีประโยชน์มากขึ้นเรื่อยๆ นั้น หากมองกลับกัน มันก็กลายเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพชนิดที่เรียกว่าอย่าได้เผลอทิ้งไว้เชียว โทรศัพท์ของคุณเป็นอันหายวับแน่นอน แต่นอกจากมิจฉาชีพจะอยากขโมยตัวโทรศัพท์มือถือของคุณไปใช้หรือไปขายต่อแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือข้อมูลต่างๆ ที่อยู่บนเครื่องนั่นเอง ไม่ว่าจะข้อมูลส่วนตัว, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์ หรือที่กำลังตกเป็นเป้าของมิจฉาชีพทั่วโลกก็คือข้อมูลบนสังคมออนไลน์หรือโซเชียลเน็ตเวิร์คของคุณนั่นล่ะครับ! เรามาตั้งค่าความเป็นส่วนตัว facebook กันเถอะครับ

การใช้ social network Facebook, Line
การใช้ social network ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่บนสังคมออนไลน์ของพวกเรานั้นมีความสำคัญมากกว่าที่คนส่วนใหญ่คิด มันไม่ใช่แค่คนอื่นจะรู้ว่าเราเป็นใคร แต่ถ้าข้อมูลถูกเอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เขาสามารถติดตามได้ว่าเราอยู่ที่ไหน มีเพื่อนเป็นใคร แล้วอาจจะอาศัยจังหวะที่เราเผลอติดตามเรา หรือปลอมตัวเป็นเราเพื่อหวังผลในทางที่ไม่ดีได้ง่ายๆ ดังนั้นเราทุกคนควรจะหันมาสนใจเรื่องความปลอดภัยและเริ่มป้องกันตัวเองจากภัยจากสังคมออนไลน์ด้วยวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้ครับ

1. หมั่นตรวจสอบว่าคุณเผลออนุญาตให้ใครเข้าถึงข้อมูลบน Facebook บ้าง จากนั้นก็ทำการจำกัดหรือระงับการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณตามความเหมาะสม ซึ่งโดยปกติคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยสนใจที่จะเข้ามาดูในส่วนนี้ แต่จากนี้ไปลองหมั่นตรวจสอบดูนะครับ คุณอาจจะพบว่าคุณได้เคยเผลอกดให้เว็บแปลกๆ หรือแอปพลิเคชันแปลกๆ ได้ขโมยข้อมูลส่วนตัวของคุณไปแล้วก็ได้ ดังนั้นควรตั้งค่าความเป็นส่วนตัว facebook ไว้ด้วย

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบน facebook
2. Chat บน Facebook ให้สนุกและปลอดภัย ไร้คนสะกดรอยตาม เพียงตั้งให้ Facebook Messenger เลิกใส่รายละเอียดที่ที่เราอยู่ไปกับข้อความต่างๆ แค่กดที่สัญลักษณ์ระบุตำแหน่งคลิกเดียว ปุ่มสีฟ้าจะกลายเป็นสีเทา ความปลอดภัยก็เพิ่มขึ้นทันทีครับ

ปิดการแสดงตำแหน่งการสนทนาป้องกันภัยจากสังคมออนไลน์
3. เรื่องบางเรื่องรู้กันแค่คนใกล้ตัวบน Facebook ก็พอ ทั้งปลอดภัยทั้งได้อรรถรสมากกว่า อย่าลืมเลือกก่อนอัพเดตสเตตัสนะครับว่าข้อความนั้นๆ จะแค่คุยสนุกๆ กับเพื่อนๆ หรืออยากแบ่งปันเรื่องราวสาระดีๆ ให้กับคนอื่นๆ ด้วย เพราะบางครั้งเราอาจจะเผลอหลุดข้อมูลสำคัญให้กับคนที่ไม่ควรจะรู้ไปก็ได้

การใช้ social network แชร์เฉพาะเพื่อน
4. ตั้งระดับความสำคัญของเพื่อนบน Facebook ให้มีเหมาะสม เพราะบางครั้งเราก็อาจจะจำเป็นต้องเป็นเพื่อนกับบางคนเพื่อมารยาททางสังคม แต่เราอาจจะไม่ได้อยากแชร์เรื่องราวส่วนตัวมากๆ เพราะไม่สะดวกใจ, ไม่สนิทหรือไม่มั่นใจพอ ดังนั้นสิ่งที่ปลอดภัยที่สุดก็คือ ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบน facebook และเลือกแชร์ตามระดับความสำคัญดีกว่า

ขั้นตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบน facebook
5. Line ก็ตั้งความปลอดภัยไม่ให้คนอื่นเข้ามาแอบอ่านข้อความของเราได้ เพียงเปลี่ยน password line และตั้งรหัสตัวเลข 4 ตัว จากนี้ไป ต่อให้มีคนแอบเอาโทรศัพท์เราไปอ่านก็ไม่ต้องห่วง แต่กรณีนี้ต้องจำรหัสให้แม่นนะครับ เพราะถ้าลืม ต้องลบแอปพลิเคชันแล้วลงใหม่ ซึ่งข้อความเก่าๆ จะถูกลบไปหมดเลยครับ

ขั้นตอนเปลี่ยน password line
6. การเปลี่ยน password line บางข้อความถ้าจำเป็นก็ส่งแบบไม่ต้องทิ้งหลักฐานไว้ด้วย Hidden Chat ข้อความที่เป็น Hidden Chat จะไม่ถูกบันทึกไว้ ทำให้ไม่มีใครมานั่งตรวจสอบบางข้อความได้ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อความที่ต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษจะไม่ถูกเอาไปใช้ต่อได้ (แต่ก็ต้องระมัดระวังอยู่ดีนะครับ เพราะหากผู้รับเลือกถ่ายรูปหน้าจอไว้ ข้อมูลสำคัญก็อาจถูกเก็บไว้เป็นหลักฐานได้อยู่ดี)

ตั้งค่า Hidden Chat
7. ตั้ง Instagram (IG) ของคุณให้มิดชิด เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับรูปต่างๆ ทำให้การนำรูปไปใช้ยากขึ้นอีกหนึ่งขั้นตอน ซึ่งแม้มันจะไม่ใช่การปกป้องที่สมบูรณ์แบบแต่ก็ทำให้เกิดการกรองอีกหนึ่งชั้น แต่สุดท้ายแล้วต้องอยู่ที่วิจารณญาณและความระมัดระวังของตัวคุณเองด้วยครับ

ตั้งค่าความปลอดภัยของ IG
8. ไม่กดลิงค์แปลกๆ ที่ถูกแชร์ต่อๆ กันมาใน Line หากไม่มั่นใจ เพราะ Line ได้กลายเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารที่เป็นที่นิยมมากในประเทศไทย ไม่เว้นแม้แต่ในกลุ่มผู้ใหญ่ถึงวัยสูงอายุ การแชร์ต่อๆ กันนั้นในหลายๆ ครั้งผู้ส่งไม่ได้ตรวจสอบเนื้อหาก่อน ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่อาจจะเป็นวิธีการหนึ่งในการโจรกรรมข้อมูล และภัยจากสังคมออนไลน์ ดังนั้นคุณจึงไม่ควรจะกดลิงค์ต่างๆ หากไม่มั่นใจและควรสอบถามไปยังผู้ส่งว่าได้มีการตรวจสอบหรือได้ดูที่เนื้อหาที่ส่งมาแล้วหรือยัง

ภัยจากสังคมออนไลน์จาก Line
9. หมั่นเปลี่ยนพาสเวิร์ดทุกๆ 3-6 เดือน ในบางครั้งเราอาจจะไม่แน่ใจว่าข้อมูลต่างๆ ของเราถูกขโมยไปด้วยวิธีใดบ้าง ดังนั้นการเปลี่ยนพาสเวิร์ดแอปพลิเคชันเหล่านี้อยู่เป็นระยะๆ ไม่ว่าจะ Facebook, Twitter, Instagram หรือ เปลี่ยน password line จะช่วยให้ผู้ที่ไม่หวังดีไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้อีก

10. นอกจากจะปกป้องความปลอดภัยด้วยการตั้งค่าต่างๆ ในตัวแอปพลิเคชันแล้ว คุณยังต้องหมั่นตรวจสอบการอัพเดตซอฟต์แวร์ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอด้วย เพราะการโจรกรรมข้อมูลยุคนี้มีการพลิกแพลงและพัฒนาอย่างรวดเร็วมาก การอัพเดตแอปพลิเคชันส่วนใหญ่จะช่วยปิดจุดบกพร่องที่เป็นช่องโหว่ให้เกิดการขโมยข้อมูลได้ ดังนั้นคุณจึงควรตรวจอัพเดตใหม่ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อให้แอปพลิเคชันทันกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอครับ

อย่าลืมนะครับว่าภัยจากสังคมออนไลน์โดยเฉพาะบนโทรศัพท์มือถือที่อยู่ติดตัวเราตลอดเวลานั้นอาจจะดูเหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราก็ได้เห็นตามข่าวอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นขโมยข้อมูลไปใช้ แอบปลอมตัวเพื่อไปก่ออาชญากรรม หรือแม้แต่แอบขโมยรูปหรือเบอร์โทรศัพท์เพื่อหวังผลทางธุรกิจ ดังนั้นการป้องกันตัวไว้ก่อนจึงเป็นเรื่องดีที่สุดนะครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น