จัดเต็ม! ครบทุกเมนูสเต็ก พร้อมสลัดบาร์ที่ทุกคนสามารถกินได้ไม่อั้น ถ้าพูดถึง Concept ร้านแบบนี้ คงเป็นร้านไหนไปไม่ได้ นอกจากร้าน “Sizzler” ที่เราเชื่อว่า หลายคนคงรู้จักและเคยไปทานที่ร้านนี้แน่นอน เพราะมีสาขาถึง 42 สาขาทั่วประเทศ และมีทุกสเต็กให้เลือกทานได้ตามใจ แถมยังมีโปรโมชั่นให้เกือบทุกวัน
แต่ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ค่อยกล้าเข้าไปใช้บริการ อาจจะเพราะด้วยบรรยากาศร้านที่ดูจริงจัง แต่การทานอาหารที่นี่ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ก่อนอื่นต้องเริ่มเปิดเมนูสั่งอาหารจานหลักกันก่อน เมื่อเลือกได้แล้ว ค่อยเลือก Side Dish ที่อยากทาน จากนั้นเริ่มตักสลัดบาร์ที่บริการฟรีกันได้เลย
นอกจาก Sizzler จะขึ้นชื่อเรื่องมาตรฐานคุณภาพของสเต็กที่เลือกมาให้แล้ว ยังมีสิ่งที่ทุกคนไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับ Sizzler ที่เราจะนำมาบอกกัน รับรองว่าเรื่องราวนี้อาจจะทำให้คุณเทใจให้ร้านสเต็กร้านนี้เพิ่มขึ้นแน่นอน เริ่มจาก...
1
สเต็กแต่ละชิ้นมีการกำหนดมาตรฐาน
เมื่อก้าวเข้ามาในร้าน ทุกคนต้องเริ่มจากการสั่งเมนูสเต็กจานหลักกันก่อน ซึ่งที่นี่มีครบทุกเมนูเอาใจคนรักสเต็กทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ หมู ไก่ ปลา หรือแม้แต่คนชอบซีฟู้ดก็มีให้เลือกรับประทานกันได้ แถมฟรี! สลัดบาร์ไม่อั้นทุกเมนู แต่รู้หรือไม่ว่าสเต็กที่นี่ทุกชิ้นต้องผ่านการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี บางชนิดนำเข้ามาจากต่างประเทศ และแต่ละเมนูมีการกำหนดขนาดและน้ำหนักที่เท่ากันทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็น
เนื้อไก่ / เนื้อหมู ต้องเป็นเนื้อจากฟาร์มที่ได้มาตราฐานของ HACCP และ GMP โดยเนื้อหมูจะต้องไม่มีสารเร่งเนื้อแดง และเนื้อไก่ต้องไม่มีสารเร่งฮอร์โมน ส่วนเนื้อวัว ที่ร้านจะใช้เนื้อวัวคุณภาพจากฟาร์มที่ได้มาตรฐาน นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสด สะอาด และปลอดสารเคมีอย่างแน่นอน หรือแม้แต่ปลา เนื้อปลาทุกชนิดที่นี่ก็ import มาจากต่างประเทศ อย่างปลาแซลมอนและปลาคอด ที่ส่งตรงมาจากประเทศนอร์เวย์ ได้ผ่านการคัดสรรและตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบอย่างเคร่งครัดในเรื่องของสารเคมีตกค้างและโลหะหนัก ทำให้ปรุงแต่งอาหารออกมาได้ในระดับ 5 ดาว
2
เมนู Side dish เปลี่ยนได้
แม้ว่าภาพในเมนูหลักที่ให้เลือกจะมีภาพประกอบกับ ข้าว เฟรนฟราย มันอบ หรือแม้แต่ผักย่างก็ตาม เราสามารถขอเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ใน 4 อย่างนี้ที่เราชอบได้ โดยไม่เสียเงินเพิ่ม โดยแต่ละเมนู Side Dish ของที่นี่ก็ไม่ธรรมดา เริ่มจาก
เฟรนฟรายของที่นี่ไม่ใช่เฟรนฟรายธรรมดาทั่วๆ ไป แต่เป็น “เฟรน-ฟรายสเต็ก” เท่านั้น ซึ่งทำมาจากมันฝรั่งขนาดใหญ่พิเศษ (ยาวมากกว่า 5 ซม. กว้างกว่า 2 ซม.) และต้องผ่านการทอดด้วยอุณหภูมิที่ทางร้านกำหนดทำให้กรอบนอกนุ่มใน มีรสหวานอัดแน่นไปด้วยเนื้อมันฝรั่งเน้นๆ
ต่อมาเมนู ข้าว ทางร้านใช้ข้าวหอมมันปูหุงด้วยน้ำสต็อกสูตรพิเศษของทางร้านที่ผ่านการเคี่ยวมาเป็นอย่างดี เสิร์ฟร้อนๆให้ทานคู่กันกับสเต็ก ส่วนมันอบ ถ้าหากเลือกทานเมนูนี้ เราจะได้ทานมันอบทั้งหัว เสิร์ฟมาพร้อมกับเนยที่กำลังละลายอยู่ด้านบน แต่ถ้าใครไม่ชอบทานเนย ก็สามารถขอแยกหรือไม่ใส่เลยก็ได้ เมนู Side Dish สุดท้ายของที่นี่ คือ ผักย่าง ผักย่างที่นี่จะเสิร์ฟมาในจานสเต็กพร้อมราดน้ำสลัดสูตรพิเศษของทางร้านช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้เข้ากันมากขึ้น แต่สำหรับคนไม่ชอบทานผักย่างราดน้ำสลัดก็สามารถแจ้งพนักงานให้แยกน้ำสลัดออกได้ แล้วถ้าใครยังไม่ชอบ Side Dish ทั้ง 4 อย่างนี้ สามารถขอเปลี่ยนเป็น Cheese Toast 2 ชิ้นแทนได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มอีกด้วย เรียกได้ว่า สามารถเลือกเอาตามใจชอบได้เลย
3
ให้ Cheese toast ทานฟรีทุกเมนู
หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อย พนักงานก็จะเสิร์ฟ Cheese toast (ชีสโทส) ให้ได้ทานฟรี 1 ชิ้นต่อ 1 ท่าน ซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง Cheese Toast มาก ถือว่าเป็นเมนู Signature ของร้านเลยก็ว่าได้ ขนมปังรูปสามเหลี่ยมที่ทาด้วยชีสหนาๆ อบให้เหลืองกรอบด้วยความร้อนในอุณหภูมิและเวลาที่พอเหมาะ เสิร์ฟให้ทานตอนร้อนๆ แต่จะให้อร่อยกว่านั้นต้องคว่ำหน้าชีสลงให้ตัวชีสสัมผัสลิ้นเพื่อรับรสชาติชีสกรอบๆ ที่กำลังละลายในปากจนได้ความหอมของชีสกันเลยทีเดียว
4
ฟรีสลัดบาร์ กินอิ่มได้ไม่อั้น
หลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ที่นี่ยังให้บริการสลัดบาร์อิ่มไม่อั้น ฟรี! เมื่อคุณสั่งสเต็กจานใดแบบใดก็ได้ คุณสามารถทานสลัดบาร์ ที่มีผักและอาหารหลากหลายชนิดให้คุณได้เลือกมิกซ์ มากถึง 60 อย่าง โดยสลัดบาร์ของ Sizzler นี้จะแยกออกเป็น 4 โซน -
โซนผัก – ที่ Sizzler มีผักให้เลือกเยอะมากจนคิดไม่ถึง มีทั้งแบบมิกซ์มาให้เลยกับผักสดๆ ปลอดสารพิษที่ปลูกโดยเกษตรกรไทยและบางชนิดนำเข้ามาจากต่างประเทศให้เลือกมิกซ์กันตามใจชอบ แต่มีสิ่งที่หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่า ที่จริงแล้วผักสลัดของ Sizzler นั้นจะมีการเปลี่ยนเมนูทุกๆ 3 เดือน เพื่อเพิ่มความหลากหลายและอยากให้ทุกคนได้ลองทานผักใหม่ๆกันอีกด้วย
โซนน้ำสลัด - แน่นอนว่าที่สลัดบาร์นั้นมีน้ำสลัดหลายรสชาติให้เลือกไม่ว่าจะเป็นน้ำสลัดโยเกิร์ตสตอเบอร์รี่, น้ำสลัดซีซ่าสลัด, น้ำสลัดครีม ,น้ำสลัดบลูชีส หรือน้ำสลัดครีมมี่ เซซามิ ก็มีให้เลือกกันได้ตามใจ แต่ความลับที่คุณอาจจะไม่รู้คือน้ำสลัดครีมที่นี่เป็นแบบสูตรไขมันต่ำที่เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ เอาใจคนชอบน้ำสลัดครีมแต่กลัวอ้วน
โซนผลไม้ – จะอยู่มุมบนสุดของสลัดบาร์ ผลไม้ที่นี่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เพื่อให้ได้ผลไม้ที่มีคุณภาพและรสชาติหวาน อร่อยถูกใจ จะเอามาทานคู่กับสลัดหรือทานเล่นหลังจากอิ่มแล้วก็ได้
โซนน้ำซุป – ในโซนนี้จะมีซุปให้เลือกทั้งหมด 3 ซุป มีทั้งซุปเห็ด, ซุปต้มยำไก่ และซุปพิเศษประจำเดือน ที่หลายๆคนอาจจะไม่ทราบกันว่า ซุปประจำเดือนของที่นี่ มีทั้งซุปหัวหอม ซุปฟักทอง ซุปฮ้อทแอนด์ซาว และซุปหอยลาย หมุนเวียนเปลี่ยนมาให้ทุกคนได้ลองชิมเมนูใหม่ๆกัน ทำใหม่แบบวันต่อวันและตั้งอยู่ในอุณหภูมิตามมาตรฐานที่ทางร้านกำหนดไว้เพื่อรักษาระดับความร้อนให้ซุปคงรสชาติความอร่อยอยู่ตลอดเวลา
5
ผักสลัดจากโครงการหลวง
ผักสลัดบางส่วนส่งตรงมาจากโครงการหลวงที่ปลูกโดยชาวบ้านบนดอยทางภาคเหนือและนำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งรับประกันในความสด สะอาด และปลอดสารพิษแน่นอน ส่วนใหญ่เป็นผักที่หาทานได้ยากอย่าง Baby cos, Lamb’s lettuce, ฟักทองญี่ปุ่น หรือแม้แต่ Wild Rocket และ Mini French Bean ที่นี่ก็มีให้ทานกันแบบไม่อั้นที่สลัดบาร์ แล้วรู้หรือไม่ว่าในทุกๆ เทศกาลสำคัญจะมีผักชนิดใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามาเป็นสีสันให้เข้ากับช่วงเทศกาลนั้นด้วย
6
เมนูทุกเมนูไม่ใส่ผงชูรส
ส่วนผสมทุกชนิดของ Sizzler จะต้องไม่มีส่วนผสมของผงชูรสอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุป น้ำสลัด หรือแม้แต่ซอสต่างๆก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่าไม่ใส่ผลชูรสแล้วทำไมรสชาติถึงยังได้อร่อยขนาดนี้ ก็ต้องบอกเลยว่า Sizzler ได้ผ่านการพัฒนาสูตรอย่างดีจนทำให้ทุกๆ เมนูนั้นไม่ต้องพึ่งผงชูรสและยังคงความอร่อยไว้ได้เป็นอย่างดี อย่างน้ำซุปที่หอมกลิ่นเครื่องเทศก็ผ่านการเคี่ยวมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนเข้าที่ ทำให้ได้รสชาติที่ลงตัวก่อนนำมาปรุงอาหาร ปลอดภัยสำหรับคนที่แพ้ผงชูรสอย่างแน่นอน
7
มีไวน์คุณภาพให้บริการ
น้อยคนนักที่รู้ว่า Sizzler ก็มีไวน์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศไว้ในเมนูให้สั่งทานพร้อมกับสเต็กของคุณ ในราคาที่ไม่ไกลเกินเอื้อม ถ้าใครสนใจอยากจะลองจิบไวน์คู่กับสเต็กจานโปรดสามารถมาลองที่นี่ได้ เพราะที่นี่ยังมีช่วง Happy Hour จาก Jacob’s Creek ที่สามารถสั่งไวน์ Jacob’s Creek เฉพาะที่ร่วมรายการได้ในราคาพิเศษ เพียงแก้วละ 119 บาท จากปกติแก้วละ 220 บาท ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 – 21.00 น.
รู้แบบนี้แล้วถือว่าคุ้มค่าทีเดียวกับสเต็กที่อัดแน่นด้วยคุณภาพ ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีในราคาสมเหตุสมผล แถมทุกเมนูยังสามารถกินฟรีสลัดบาร์ได้ไม่อั้น ใครที่อดใจรอไม่ไหวไปเจอกันได้เลยที่ร้าน “Sizzler” หรืออยากหาโปรโมชั่นดีๆ ก็ลองแวะไปดูที่ https://www.facebook.com/SizzlerThai กันได้เลย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น